รีวิวThe Devil All the Time

รีวิวThe Devil All the Time ชื่อโดนัลด์ เรย์ พอลลอคอาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นเคยสำหรับนักประพันธ์ อาจเป็นเพราะเขาเริ่มหยิบปากกาและเขียนหนังสือเมื่อปี 2551 ตอนที่เขาอายุประมาณ 50 ปี ก่อนหน้านั้นเขาอาศัยอยู่ในบ้านเกิดทำงานในโรงงานต่างๆเหมือนเป็นตัวละครในนิยายของเขาเอง และแม้จะเดบิวต์ด้วยหนังสือเรื่องสั้นชื่อ Knockemstiff ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่เขาเกิดและใช้ชีวิตมาทั้งชีวิต และนวนิยายเรื่องแรกของเขา The Devil All the Time ตามมาในปี 2011 ปัจจุบันเขาตีพิมพ์นวนิยายเพียงสามเรื่องเท่านั้น โดยล่าสุดคือ The Heavenly Table ในปี 2559

Pollock ได้รับรางวัลหลายสิบรางวัลในหลายประเทศ และ The Devil All the Time ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 หนังสือยอดนิยมแห่งปีโดยนิตยสาร Publishers Weekly ซึ่งครอบคลุมแวดวงการพิมพ์ทั่วโลก และได้รับคำวิจารณ์ที่ดีว่าเป็นความเจ็บปวดที่สวยงาม ดั่งดอกไม้บานกลางกองขี้เถ้า จนกระทั่งมีการซื้อและแปลเพื่อจำหน่ายมากกว่า 21 ภาษาทั่วโลก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ได้รับความสนใจจากดาราดังอย่างเจค กิลเลนฮาล ที่ขอร่วมเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง

เสน่ห์ของเรื่องนี้ในนวนิยายของพอลลอคส์ เป็นภาพเมืองชนบทของอเมริกา นี่คือยุคที่พอลล็อคเติบโตขึ้นมาจริงๆ ราวกับถูกพรากไปจากความทรงจำของเขา ความโหดร้ายของชะตากรรมของตัวละครก็ลึกซึ้งและมีมิติเช่นกันเพราะรู้ว่าคนที่เล่าเรื่องแบบนี้คงมีชีวิตที่ยากลำบากมาก เป็นเรื่องเหมาะสมที่พอลลอคจะรอเวลาเพื่อกลั่นกรองชีวิตของเขาหลายทศวรรษให้กลายเป็นเพียงวรรณกรรมชิ้นหนึ่ง เพียงไม่กี่ชิ้นแต่ทุกหยดเข้มข้นและอ่อนโยนแบบนี้

คำถามเกี่ยวกับความศรัทธาของคริสเตียนที่เข้มงวดกับข้อสงสัยในไสยศาสตร์ที่ทำให้คนชั่วฉวยโอกาส หรือแม้แต่ปล่อยให้คนดีแอบใช้พระนามของพระองค์เพื่อแสดงด้านมืดของตนเอง ทำให้ชะตากรรมของตัวละครเต็มไปด้วยความสมจริง ความจริงจัง ความโหดร้ายราวกับปีศาจที่ซ่อนอยู่ในทุกหน้าของหนังสือ

กงกรรมเมืองคนบาป รีวิวThe Devil All the Time

รีวิวThe Devil All the Time การผูกเรื่องราวของตัวละครกลุ่มต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันทำให้เวลาที่ผ่านไปนั้นเข้มข้นและยากต่อการคาดเดาโดยเฉพาะในฉากสุดท้ายที่กรรมนำพามา มันเชิญชวนให้คุณหยั่งรากอย่างแท้จริงเพื่อให้พวกเขารอดพ้นจากชะตากรรมบาปเหล่านี้ และสำหรับผู้กำกับที่จะมาถ่ายทอดบทกวีลูกทุ่งอันดุเดือดและสวยงามนี้ กลายเป็น อันโตนิโอ กัมโปส ที่เคยทำงานมาก่อน เข้าชิงที่เมืองคานส์หลายครั้งตั้งแต่ทำหนังสั้นจนเริ่มทำหนัง ใน The Devil All the Time ผมรู้สึกตะกอนในการเล่าเรื่องจากผู้กำกับไม่น้อย มีเรื่องราวไม่กี่เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกถึงเสน่ห์ของวรรณกรรมคลาสสิกผ่านภาษาของภาพยนตร์แบบนี้

ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่งแบบนี้ หนังเรื่องนี้ได้ดึงดูดนักแสดงเก่งๆ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ มากมายในยุคนี้ที่มาร่วมแสดงบทบาทต่างๆ มากมายจนเราทึ่ง รวมทั้งโรเบิร์ต แพตทินสัน ในบทเจ้าบาปผู้เอาเปรียบ ของผู้ศรัทธาในชนบท ทอม ฮอลแลนด์ และตัวละครหลักของเรื่องเป็นเด็กที่เผชิญกับโลกที่โหดร้ายและจับตาดูพระเจ้าอย่างแข็งขัน เพราะหมัดปกป้องคนที่พวกเขารักดีกว่าการจับมือกันหน้าไม้กางเขน

Bill Skarsgard รับบทเป็นชายผู้อดทนต่อความโหดร้ายของสงครามโลกและหันหลังให้กับพระเจ้า แต่สุดท้ายเขาต้องเผชิญกับไม้กางเขนเพื่ออธิษฐานขอให้ภรรยาที่รักของเขาหายดี แฮร์รี เมลลิ่งรับบทเป็นหนึ่งในบททดสอบศรัทธาของเขาที่น่าสมเพชที่สุด เมื่อเขาใช้วิธีการสุดโต่งเพื่อพิสูจน์ตัวตนของเทพเจ้าเซบาส เทียน สแตนยังรับบทเป็นนายอำเภอคอรัปชั่นที่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้ง และเจสัน คลาร์กรับบทเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เชื่อมโยงตัวละครกลุ่มต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างความสับสนให้มากยิ่งขึ้น

ทางด้านสาวๆ มีเอลิซ่า สแกนเลน (น้องคนสุดท้องในภาพยนตร์เรื่อง Little Women (2019)) ในบทบาทของเด็กสาวบ้านนอกที่รอคอยการกลับมาของพ่ออย่างสมเพชจนกว่าเธอจะมอบชีวิตของเธอไว้กับพระเจ้าเป็นความหวังสุดท้ายของเธอ มีอา วา ชิโคฟสกายังรับบทเล็กๆ ของเด็กสาวบ้านนอกที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเหตุการณ์ของตัวละครอื่นๆ ในภายหลัง ฉากสั้นๆ ที่เธอต้องปล่อยวางเป็นสิ่งที่ติดอยู่กับเราจริงๆ

และคุณอาจต้องชื่นชมเสียงของผู้เล่าเรื่องที่พอลลอคส์เจ้าของนิยายสร้างขึ้นซึ่งให้เสียงเต็มเปี่ยมที่แสดงให้เห็นน้ำหนักของประสบการณ์ชีวิตที่เข้มข้นอย่างชัดเจน ที่กล่าวมานี้ยังมีนักแสดงสมทบอีกมากมายที่รับผิดชอบสัดส่วนของตัวเองได้ดี คือต้องยอมรับว่าทีมงานและผู้กำกับทำหน้าที่ได้ดีมากในการคราฟตัวละครออกมาเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายแบบนี้

และสำหรับสายการผลิต หนังเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 35 มิลลิเมตร และภาพมีเกรนธรรมชาติที่สวยงามมาก หากเป็นไปได้ขอแนะนำให้รับชมบนจอขนาดใหญ่ที่รองรับรายละเอียดได้ชัดเจน คุ้มค่า เนื่องจาก Netflix ได้กรุณาอนุมัติการถ่ายทำภาพยนตร์ในยุคปัจจุบันนี้แล้ว ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่ได้มีบ่อยๆ มันหายากมาก

สรุป: เป็นหนังดราม่าคลาสสิก ฉุนเฉียว ลุ่มลึก และใช้พลังของ

บทความที่เกี่ยวข้อง